วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

กรณีศึกษา:จับหนุ่มเขมรนำเด็กมาบังคับเป็นขอทานเช้ายันค่ำ

จับหนุ่มเขมรนำเด็กมาบังคับเป็นขอทานเช้ายันค่ำ
          "ปคม." จับกุมหนุ่มเขมร ผู้ต้องหาค้ามนุษย์นำ เด็กชาย 2 รายชาติเดียวกัน มาบังคับขอทานหน้าห้างดังตั้งแต่เช้ายันค่ำ ตะลึงหลักฐานโอนเงินกลับเขมรกว่า 1.5 แสน แต่ผู้ต้องหายังปฏิเสธ
วันนี้ (26 ม.ค.) พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) แถลงข่าวจับกุมนายสก จัน อายุ 24 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหาค้ามนุษย์นำเด็กมาขอทาน พร้อมของกลางกล่องรับบริจาค 3 กล่อง สมุดบัญชี หลักฐานการนำเงินฝากธนาคาร โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และเงินจำนวน  4,100 บาท หลังจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม. สืบทราบว่า ได้มีการนำเด็กใส่ชุดนักเรียนมาขอทานที่บริเวณห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านบางกะปิ และงามวงศ์วาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่ตรวจสอบพฤติกรรมเด็กขอทานซึ่งอาจตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบทราบโดยละเอียดและติดตามพฤติกรรมเด็กจนแน่ชัดแล้วว่าเด็กชายขอทาน 2 คน มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ได้ถูกบังคับมาขอทาน เมื่อขอทานเสร็จจะนำเงินไปให้กับผู้ต้องหา ที่ห้องพักซอยลาดพร้าว 47 เขตวังทองหลาง กทม. จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหา โดยพบผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 ราย เป็นชาวกัมพูชา ซึ่งขณะนี้ได้ถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สน.โชคชัย ในความผิดฐานเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย
           จากการสอบถามเด็กชายชาวกัมพูชาทั้งสองคนให้การสอดคล้องกันว่า ผู้ต้องหาเป็นคนไปนำตัวมาจากประเทศกัมพูชา เพื่อให้มาขอทาน โดยต้องขอทานให้ได้อย่างต่ำวันละ 200 บาท ตั้งแต่เวลา 07.00 น.-21.00 น. หากวันไหนขอทานทานไม่ได้ตามจำนวนก็จะถูกจดบัญชีหนี้สินไว้  ด้าน นายสก จัน ผู้ต้องหา ให้การอ้างว่าเด็กทั้งสองคนมีญาติมาฝากไว้ และตนไม่รู้ว่าเด็กไปขอทาน และตนได้พักอาศัยอยู่ที่กรุงเทพมา 2-3 เดือนแล้ว ซึ่งประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง
       พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีพยานหลักฐานแน่ชัด ว่าผู้ต้องหาทำความผิดจริง และยังพบหลักฐานการโอนเงินที่ได้จากการขอทานกลับไปยังประเทศกัมพูชากว่า 1.5 แสนบาท พร้อมแจ้งข้อหาค้ามนุษย์โดยใช้เด็กเป็นเครื่องมือ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มีบทลงโทษจำคุก 8 เดือนถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 6 หมื่นบาท ถึง 3 แสนบาท และฝากเตือนไปยังประชาชนชาวไทยว่าขบวนการเหล่านี้จะใช้นิสัยเอื้อ เฟื้อของคนไทยในการหาเงินซึ่งหากให้เงินไปจะเป็นการสนับสนุนขบวนการค้า มนุษย์โดยใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น